ชีวิตพิศวงของวอลเตอร์ มิตตี้

     วันนี้ขอนอกเรื่องในไทยนิดหน่อยแล้วกัน แต่ก็ไม่พ้นเรื่องเที่ยวอีกแล้ว เหตุเกิดจากไปเห็น ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนึงเข้า เลยหาโอกาสไปดูซะเลย ชื่อเรื่อง ชีวิตพิศวงของวอลเตอร์ มิตตี้ หรือ The Secret Life of Walter Mitty เลยมาเล่าสู่กันฟังถึงความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้

       ชีวิตพิศวงของวอลเตอร์ มิตตี้ หรือ The Secret Life of Walter Mitty ของเบน สติลเลอร์ เป็นหนังแฟนตาซี ว่าด้วยการหนีจากโลกความเป็นจริง ชีวิตประจำวันที่น่าเบื่อหน่ายของสู่โลกแห่งจินตนาการ พูดให้สั้นคือบอกเล่าเรื่องราวของหนุ่มชอบฝันกลางวันที่ชื่อ วอลเตอร์ มิตตี้ หนังดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันของเจมส์ ทูเบอร์เคยขึ้นจอมาแล้วเมื่อปี ๑๙๔๒ เวอร์ชั่นใหม่ได้สตีฟ คอนราด มารับหน้าที่เขียนบท ยังคงเล่าเรื่องของหนุ่มผู้มีอาการใจลอย เพราะหลุดเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ ที่ชื่อวอลเตอร์ แต่เปลี่ยนสถานะมาเป็นหนุ่มโสด ที่หลงรักแต่ไม่กล้าพูดคุยกับเชอริลเพื่อนร่วมงาน และจากบรรณาธิการนิตยสาร เป็นหัวหน้าแผนกฟิล์มเนกาทีฟของนิตยสาร Life หลังจากแนะนำตัววอลเตอร์ ก็เข้าสู่เรื่อง...เพื่อเข้าสู่การเป็นไลฟ์ออนไลน์ ไม่เพียงต้องปลดพนักงานออก แต่ยังต้องปิดฉบับหนังสือ และเรื่องวุ่นๆ ก็เกิดขึ้น เมื่อฟิล์มหมายเลข ๒๕ ของฌอน โอ คอนเนลล์ ช่างภาพระดับตำนาน ที่จะใช้เป็นปกไลฟ์ฉบับสุดท้ายหายไป ในฐานะผู้รับผิดชอบ วอลเตอร์จึงต้องค้นหา ซึ่งทำให้การผจญภัยในจินตนาการเป็นจริง 

        สิ่งที่ที่เป็นจุดเด่นของหนังคืองานด้านภาพ สวยล้ำ สำหรับวิวทิวทัศน์ของกรีนแลนด์ ไอซ์แลน และเทือกเขาหิมาลัย ที่เขาเดินทางไปเพื่อตามหา ฌอน เพื่อถามว่าฟิล์มหมายเลข ๒๕ อยู่หนใด และที่แทรกเข้ามาเป็นสีสันของเรื่องก็คือการผจญภัย ที่มีทั้งระหว่างการเดินทางจริง การว่ายน้ำหนีฉลาม หนีตายจากภูเขาไฟระเบิด และภาพการผจญภัยในจินตนาการ ในส่วนนี้มาในรูปของตลกล้อเลียนหนังแอคชั่น ในแนววีรบุรุษผู้กล้า และสวยมากขึ้นด้วยเพลงประกอบที่เลือกเข้ามาได้อย่างลงตัว 

       กลับไปที่เนื้อหาของหนัง เหมือนหนังแนวโรดทริป ที่สำคัญกว่าการพบรูปที่หายไป คือ สิ่งที่ได้พบระหว่างการเดินทางในกรณีของวอลเตอร์ ที่พบก็คือ ความฝันที่ทำหายไประหว่างทาง ขณะเดียวกันก็สอดแทรกประเด็นที่ว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย ผ่านการปิดฉากของนิตยสารไลฟ์ ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกในยุคอินเทอร์เน็ต และที่ทำให้หลายคนประทับใจก็คือ การทำให้เราตระหนักถึงเหล่าคนทำงานตัวเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม ชีวิตพิศวงของวอลเตอร์ มิตตี้ เป็นหนังที่เหมาะกับการลงโรงในช่วงส่งท้ายปี เพราะทำให้เราหันกลับไปทบทวนว่า ที่ผ่านมาเราทำฝันตกหายไปที่ไหน เพื่อจะได้ตั้งหลักทำฝันให้เป็นจริง.

       ถือเป็นหนังที่ดีมากๆอีกเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำให้ดูกันค่ะ เผื่ออาจจะได้ข้อคิด แรงบันดาลใจ และมุมมองการใช้ชีวิตใหม่ๆ การก้าวออกไปผจญภัยบนโลกกว้าง หนังที่ดีจะสร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้เราด้วยค่ะ

"จะอยู่กับที่ แบบจำเจ ซังกะตายไปวันๆ 
หรือจะออกไปค้นหา "ความงามของชีวิต" ข้างนอก ."